วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Road Review Audax 400BRM, Chaopraya (30/5/15)






นี่เป็นโพสต์รีวิวทริปจักรยานครั้งแรกของผมนะครับ จริงๆจะเรียกว่ารีวิวก็คงไม่ถูก เอาเป็นว่าขอแชร์ ประสบการณ์ สำหรับขาอ่อนที่อยากลองเปรี้ยวกับการปั่นจักรยานทางไกล เผื่อจะเป็นแนวทางให้กับขาอ่อนท่านต่อไปที่กำลังลังเลว่า  จะลองดูดีมั้ย

 โดยทริปที่นำมาวันนี้คือ ทริปเจ้าพระยา ที่ปั่นจาก TOT หลักสี่ เรียบแม่น้ำน้อยไปชัยนาท แล้วปั่นกลับ TOT หลักสี่  รวมระยะทาง 407.8 โล ภายในเวลา 27 ชั่วโมง


ผิดพลาดอย่างไร พิมพ์แย้งหรือเสริมได้เต็มที่นะครับ

และแล้วก็มาถึงคืนวันก่อนที่จะไปออกทริป เอาของวางเรียงๆดูว่ามีอะไรขาดเหลือบ้าง  พยายามพกเกินไว้ก่อน ถือคติเหลือดีกว่าขาด 
ก่อนไป ให้เล่นกล้ามใหล่ไปก่อนนะ  ไม่งั้นกลับมาปวกใหล่นะเอ่อ เอิ้กกก
เตรียมของเสร็จ ก็ทำการโหลดคาร์บ ด้วยการกินปลาคราฟเป็นอาหารเย็น ไม่ใช่แระ  คือมื้อเย็นก่อนออกปั่นพรุ่งนี้จะเน้นแป้งเป็นหลัก กินให้เยอะให้จุกกันไปข้างเลย เพื่อให้ร่างกายเก็บเป็นพลังงานไว้ใช้พรุ่งนี้ทั้งวัน  
จะออกทริปทีไร  ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนผมหรือเปล่านะ ของผมจะตื่นเต้น  นอนไม่หลับ  และนี่ก็เป็นอีกทริปที่เป็นอย่างนั้น  นอนพลิกไปพลิกมา น่าจะได้หลับจริงๆตอนตี 2 แต่ก็ตั้งเวลาปลุกไว้ที่ ตี 5 สรุปได้นอนไปแค่ 3 ชั่วโมงเอง  แล้วจะต้องไปทริปอดนอนอีก เริ่มหวั่นใจว่าจะไม่ไหวซะแระ
ตื่นมาปุ๊บสิ่งแรกที่ทำเลยคือ กินครับ  กินไปเยอะๆเลย โดยผมแบ่งมือเช้าเป็น 2 รอบคือ

- มื้อเช้าที่ 1 ทูน่า ½ กระป๋อง ขนมปัง 4 แผ่น ตื่นปุ๊ปทานทันที  เพื่อให้ร่างกายย่อยให้เป็นพลังงานให้ให้ทันปั่น
- มื้อเช้าที่ 2 ทานก่อนออกตัว ทูน่า ½ กระป๋อง ขนมปัง 4 แผ่นและเครื่องดื่มเกลือแร่อีกป๋องนึง 
อันนี้มือเช้าที่ 2 ใช้หลังคารถเป็นโต๊ะกับข้าว
มาถึงก็ไปลงทะเบียนที่จุดลงทะเบียน
คนเริ่มมาถึงกันเยอะแล้ว ได้ยินว่ามีผู้มาปั่นประมาณ 500 ชีวิต
ลงทะเบียนเสร็จ ได้บัตรประทับตราและCuesheet  สำคัญมาก ห้ามหายนะแจ๊ะ
ข้างในมีช่องให้ประทับตราตามจุดต่างๆพร้อมบอกระยะทางและเวลาด้วยไปกันให้ทันนะพวกเธอว์
 ปกหน้าและปกหลัง มีชื่อที่อยู่คนปั่นพร้อม  และเบอร์โทรสำคัญในกรณีฉุกเฉิน
เริ่มออกตัว ที่ TOT ช่วงนี้ นักปั่นยังรวมตัวกันอย่างเหนี่ยวแน่น ผ่านถนนช่วงที่ไม่ดีช่วงเดียวคือ เส้น local road พอเลยช่วงถนนไม่ดีไป ก็พยายามคุมความเร็วอยู่ไม่เกิน 30 โชคดีที่ลมส่ง พยายามที่จะไม่ใช่แรงมาก เพราะ หนทางยังอีกยาวใกล
ดูจากกราฟ ความเร็วคงที่ แต่หัวใจ(เส้นแดง)เริ่มไต่เพดานขึ้นไปเรื่อยๆแล้ว T T
Checkpoint1 
มีตราประทับเป็นนิ้วหัวแม่มือ   น่ารักดีดูแล้วนึกถึงตอนสมัยเรียน ไม่มีเงินเที่ยว เอาเครื่องคิดเลขไปจำนำ อิอิ
มีอาหารว่างเป็นข้าวต้มมัด ผมไม่ได้ทาน ไม่อยากมือมันตอนแกะ แต่แอบอยากกินอยู่นะ
เติมน้ำเสร็จพักนิดเดียวพอ ตามคอนเซ็ปต์ขาอ่อน พอเห็นนักปั่นกลุ่มใหญ่เข้ามา  เลยรีบออกก่อนดีกว่า ถือคติปั่นเบาๆพักน้อยๆ แล้วไปต่อยัง Checkpoint 2 ขุมทรัพย์ความรู้ จ.อ่างทอง(AKAP)

ระยะทางจาก CP1 -CP2 อยู่ที่ 60 km.
หลังจากออกมาจาก CP 1 ก็เข้าสู่โหมดปลิงเต็มตัว เห็นใครต้องวิ่งเข้าไปเกาะ เลยทำให้รู้ถึงความอ่อนด๋อยขาอ่อนของตัวเองเต็มๆ เพราะ ขนาดตามดูดเค้าแล้ว หัวใจยังป้วนเปียนอยู่แถวๆ 170 ถือว่าสูงมาก สำหรับคนตามดูด 
ในใบ Cuesheet  บอกไว้ว่า ตั้งแต่กม. 119.4 - 190 ถนนย่อยเลียบแม่น้ำน้อย: จะมีSECRET CHECKPOINT ตั้ง อยู่ซักแห่ง
ปั่นเข้าเมืองไปหน่อย ไปหาอะไรทาน ช่วงนี้ไม่ได้อยู่ในแผน เลยทำให้เสียเวลาไปหน่อย กินพออยู่ท้อง ก็ออกปั่นกลับกทม. แระจ้า 



บางช่วงมีกลุ่มใหญ่ขาแรงแซงไป ด้วยจิตวิญญาณของปลิงไม่สามารถอดใจไม่ให้ตามดูดได้  แต่หัวใจทะลุไปถึง 176 เลยต้องยอมถอนตัว ออกมาปั่น ต๊อกแต๊กๆ  ไปคนเดียวยัน  CP2 ส่วนอากาศน่ะเหรอ ร้อนมากกกกกก กอไก่ล้านตัว ทั้งที่ยังไม่เที่ยง นี่ขนาดไปฝึกทนร้อนที่สนามเขียวมาทั้งวัน ยังไม่ร้อนเท่าวันนี้เลย  เมฆสักนิดก็ไม่มีให้เห็น คาดว่าฝนไม่มีทางตกเป็นแน่แท้

กม. 107.5Checkpoint2: ขุมทรัพย์ความรู้ จ.อ่างทอง(AKAP) 10:04-13:56  ตามแผนที่วางไว้ให้ถึงก่อน 12.30 แต่ตอนปั่นจริง มาถึงตั้งแต่ 11.09 เร็วก็จริง  แต่การไม่ปั่นตามแผนส่งผลให้ชีวิตหลังจากนี้เปลี่ยนไปจริงๆครับ 

อ่ะ มาดูใบเวลากันหน่อย
หิวมากทานอะไรไปจำไม่ได้แต่อร่อยสุดๆ กินไปถ้วยเดียวพอ เพราะยังไม่เที่ยงเลย  คงไปแวะหาอะไรทานข้างทางอีกที

ก่อนไปก็เติมน้ำแข็ง เป็นที่ต้องทำของทุกจุดพัก

ใส่เกลือแร่ซักหน่อย ดูแดดแล้ว คาดว่าต้องเสียเหงื่ออีกเป็นลิตรๆแน่



แล้วก็จริงดังที่คาดไว้ อากาศร้อนแบบจัดเต็ม ถ้าดูตามกราฟ อุณหภูมิจะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ ช่วงที่ออกมาจาก CP2 อุณหภูมิ สูงขึ้นไปถึง 45 มาได้ข่าวตอนหลังว่ามีคนเป็นลมรถล้มด้วย 

45 องศา บ้าไปแล้ว
 ช่วงนี้กลุ่มนักปั่นจะเริ่มกระจายตัวแล้ว เลยกลายเป็นปลิงไร้เจ้าของ
เส้นทางต่อจากนี้เป็นเส้นทางเรียบแม่น้ำน้อย จะเป็นเส้นทางคอนกรีตผ่านชุมชน ซึ่งเป็นเส้น ไฮไลท์ของทริปนี้ มีพื้นแตก และเป็นเคลื่อนอยู่เป็นระยะตลอดทาง  สำหรับเสือหมอบโครงอลู เป็นอะไรที่ปั่นยากมากๆ  ตอนนี้ระบบมือ มาก  ก้นยังไม่เท่าไร เพราะยกจากเบาะได้  แต่มือนี่ต้องกำแฮนด์ไว้ตลอดเป็นอะไรที่ทรมานมากๆ  เจอร้านค้า  เลยจอดแวะซื้อ น้ำ กับขนมปัง

รูปนี้ถ่ายที่หน้าร้านค้า

ขนมปังนี่นอกจากจะทานได้แล้วยังเอามามัดกับแฮนด์ใช้รองมือได้ด้วยนะ อิอิอิ 
 เข้ากม.ที่ 145 ไม่ไหวแล้ว หิวตาลายคล้ายจะหาเรื่องอู้นั่งพัก  ปั่นไปเจอร้านอาหารตามสั่ง เห็นมีเพื่อนนักปั่นจอดกินน้ำอยู่ ไม่รอช้า  เบรกตัวโก่งพร้อมบอกแม่ค้าว่า  ขอกระเพราหมูสับไข่ดาวครับ

อาหารประจำชาติ

ขนาดจอดตั้งนานกินข้าวแล้ว หัวใจยังเต้นที่ 65% อยู่เลย

 ก่อนออกมาก็ไม่ลืมที่จะขอน้ำแม่ค้ามาราดตัว  เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย   ส่วนตัวจะคิดว่า ถ้าเหงื่อออกเยอะจะเอาแร่ธาตุออกมาด้วย  แล้วถ้าตัวมีน้ำชุ่มแทนเหงื่ออยู่แล้ว เหงื่อก็จะไม่ออกอีก เพราะตั้งแต่เช้ามา ทานน้ำเข้าไปร่วม 4 ลิตรได้ ยังไม่ปวดท้องฉี่เลย

ซึ่งจุดๆนั้นก็อยู่เลยร้านข้าวมา 10 กิโลเอง  T T โดยมาแอบอยู่ที่ กม. 155
มาดูกราฟกันดีกว่า  จะเห็นว่า ตลอดทาง ทำคววามเร็วได้แค่ 20 เท่านั้นเอง เพราะถนนที่ไม่ดี (แต่วิวดี) 

จุดประทับตรา

SECRET CHECKPOINT จะประทับตรงด้านหลังเล่ม

เพื่อนนักปั่นที่เจอกัน ทุกสนามที่ไปเลย ทีม โคราช จอดนอนพักกัน  อดใจไม่ไหวนอนด้วย อ่า.....พื้นกระเบื้องทำไมมันเย็นสบายอย่างงี้ละเธ้อออ

มาดูผลของการใส่กางเกงขาสั้นปั่นกลางแดดเมืองไทย
นอนพัก เล็กน้อย พอเป็นพิธี (20นาที) ก็ออกไปหาแดดอีกครั้ง TT ก็ยังปั่นเรียบเส้นแม่น้ำน้อยต่อไปเรื่อยๆเหมือนเดิม  ปั่นช้าๆ ความเร็ว 20  โดนแซง ตลอด แต่ก็แซงกลับคืนตอนที่เค้าแวะพักกัน สรุปคือ ขาอ่อนให้กลั้นใจ ปั่นเรื่อยๆ พักน้อยๆนะคร้าบบ รับรองตามขาแรงพอได้อยู่นะ

ระยะทางหลังจากนี้ อีกร่ววม 60 โล ก็จะถึง ครึ่งทางที่ ชัยนาทกับแดด ช่วงบ่ายแก่ๆที่เข้ามาแทงสายตาตลอด มันชวนให้เหนื่อยความความเป็นจริงที่ควรจะเป็น  เอาน้ำราดหัวแล้วราดหัวอีก เผลอแพลบเดียว แห้งอีกแล้ว ราดมากน้ำมาชุ่มตรงโม่งช่วงจมูก หายใจไม่ออกอีก บ่นๆๆๆๆ 
กราฟดูหงิกงอมาก เพราะปั่นไป จอดไป เอาน้ำราดหัวไป แต่อย่างละไม่นานนัก

จอดแวะตามทางน้อยๆ แล้วก็แวะแค่ 5-10 นาทีพอ ดูเวลาแล้วยังอยู่ในแผนที่วางไว้ แล้วเราก็มุ่งตรงไปยังจุดกลับตัวเลยดีกว่าที่ Checkpoint 3: ศาลากลาง จ.ชัยนาท
 มาถึงCheckpoint 3 : ศาลากลาง จ.ชัยนาท กม.212.6 13:12-21:00  วางแผนไว้ว่ามาถึง ตอน 18.30  มาถึงจริง 17.50 ถือว่ายังอยู่ในเวลาตามแผนอยู่ แต่สภาพไม่ไหวจะเคลียร์แล้วหมดแรงกับแดดไปซะเยอะ 
ทำการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เข้ากับการปั่นเวลากลางคืนหน่อย 
มาถึงชัยนาทแล้วนะรู้ยัง 
กลางวันจะใส่เสื้อดำแขนยาวเพื่อกันแดด  กลางคืนจะใส่แขนสั้นสีขาว เผื่อความสบายตัวพร้อมใส่เสื้อสะท้อนแสงคลุมทับอีกทีนึง
ในศาลากลางเปิดแอร์ด้วย  ตายๆ  เผลอนอนไม่ได้นะ  มีหลับแน่ๆ

 แอบมีได้ยินว่ามีเพื่อนนักปั่นหลายท่านจะขอถอนตัวที่จุดนี้ ได้ยินก็เสียดายแทนนะครับ ผมว่าส่วนที่ยากที่สุดของทริปนี้ ได้จบไปแล้วนะ นั้นคือแดดอันโหดร้าย  (แต่หารู้ไม่มันมีสิ่งที่โหดร้ายกว่าแดดรออยู่นะ หึหึ)
เปิดเป๋า เปลี่ยนชุดหน่อย  
 แต่ๆๆๆๆๆ สายชาร์จที่ชาร์จมือถือไฟไม่เข้า  หลังจากนี้เลยไม่ได้ถ่ายรูปเท่าไรแล้ว  เซฟพลังงานมือถือไว้หน่อย

พระอาทิตย์ ตกดินไปอย่างสมบูรณ์ มองCuesheet ไม่เห็น ปั่นเก้ๆกังๆ ซักพัก ก็มีนักปั่นผู้แสนดีปั่นตามมา แล้วก็ช่วยนำเส้นทางพร้อมบังลมให้ 
ตาม Cuesheet จะมีบอกไว้ว่ามีจุดพักที่ปลอดภัยอยู่สองจุดคือ
กม. 232.5 ปั๊มน้ำมัน + จุดพัก
กม. 252.4 ปั๊มน้ำมัน + จุดพัก,
กลางวันมีแดด  กลางคืนก็มีลมนะคร้าบบ แถมแรงซะด้วย ตอนกลางวันรู้อยู่ว่าลมส่ง แต่ว่า เส้นทางไม่สามารถทำความเร็วได้ รู้สึกเสียของเหมือนกันนะ ฮึมๆ
เราแวะพักกันทุกจุดที่เค้าให้พัก ส่วนตัวผมรู้ตัวแล้วว่าร่างกายไม่ไหวแล้ว ไม่สามารถปั่นไปเร็วกว่า 20 ได้ ก็บอกนักปั่นผู้บังลมให้ปลิงอวบๆตัวนี้ว่า “ไปก่อนได้เลยครับ ไม่ต้องรอผม” แต่ทางนั่กปั่นท่านนั้นก็ยืนยันว่า ปั่นกลางคืนอย่าปั่นคนเดียวเลย แล้วก็ค่อยปั่นเป็นเพื่อนอยู่ใกล้ๆ ผมละแอบเกรงใจ๊เกรงใจ นี่แหละคือเสน่ของการปั่น Audax ละ
กม. 268.4 Checkpoint4: ร้านสะดวกซื้อ 7-11 14:55-00:40 วางแผนว่าจะมาถึงตอน 22.30  แต่มาถึงจริงตอน 23.00
 ช้าเพราะ ปั่นเร็วไม่ได้แล้ว พักในแต่ละจุดก็นานเกินไป ทำไงได้ ขาอ่อนนี่เนอะ ก็อ้างกันไป 

ที่จุดCPนี้ให้ซื้อของใน 7/11 แล้วเก็บสลิปมาประทับตราตอนเข้าเส้นชัย  แต่7/11 สาขานี้อยู่อยู่ในหลืบไปหน่อย ปั่นมาง่วงๆเกือบเลยแหนะ  ซื้อไข่ต้มทาน เติมน้ำให้เติม หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าทั้งความง่วงไปยังจุด CP5  มีระยะทางไม่ไกลนะ 38 กิโลเอง  แต่ปั่นคนเดียวในความง่วงนี่รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ไกลมากๆเลย




 ปั่นคนเดียว ง่วงมากกกก มืดด้วย  แต่ดีหน่อย มีหมาค่อยวิ่งไล่เป็นระยะ  ทำให้ตื่นเต้นขึ้นบ้างเป็นช่วงๆ 
ความเร็วอยู่ที่ 17-18 ช่างเศร้าใจยิ่งนัก ตอนแรกก่อนจะมาปั่นตั้งใจไว้เลยนะว่าจะไม่นอนพัก แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ปั่นผ่านศาลาข้างทางใจก็อยากจะเข้าไปแวะพัก แต่ก็ไม่กล้า  แบบว่ากลัวปี๋อ่ะ ปั่นไปหลับไป ส่วนตัวไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ให้เดาก็น่าจะเกิดมาจากอากาศตอนกลางวันที่ร้อน รวมกับอดนอนเมื่อคืน ทำให้มีสภาพนี้  ตอนกลางวัน ร้อนไงกินน้ำไปเท่าไรฉี่ก็ไม่ออก  พอมาตอนกลางคืนนะออกได้ออกดี  จอดแวะในพงหญ้าตั้งหลายรอบ ฉี่ไปก็หวิวๆไป ก็รอบข้างมันมืดหมดเลยอ่ะ ร้านค้าอะไรก็ไม่มี  บรื๋อยยยยย

กม. 307.0  Checkpoint5: ขุมทรัพย์ความรู้ จ.อ่างทอง (AKAP) 16:06-03:12 วางแผนว่าจะมาถึงตอน 00.30  แต่มาถึงจริงตอน 1.00  ช้ากว่าแผนครึ่งชั่วโมงนี่รับได้  แต่ๆๆๆๆๆ ตอนนี้ร่างกายไม่ไหวแล้ว  กระหายหมอนและที่นอนอย่างมาก ทานข้าวต้ม พร้อมไข่ต้ม ไปอย่างละ 3 เผื่อว่ามันจะเข้าไปซ่อมร่างพังๆนี้ได้ ว่าแล้วก็ตั้งเวลา ตื่น ซัก 2.30 

ตอนนอนคนยังไม่เยอะเท่าไร  แอบเซลฟี่เล็กน้อย

พอตื่นมานี่  โว๊วววว แทบไม่มีทาเดินเลยจร้า 5555

 มีรถไฟหลายขบวนเลยที่อยู่ในห้องนี้(ไม่รู้ตัวเองเป็น 1 ในนั้นหรือเปล่า)  เข้าใจดีเลยเพราะแต่ละคนคงเหนื่อยกันมากแน่ๆ
ล้างหน้าล้างตา ทานข้าวต้มอีกชามพร้อมกาแฟ ออกตัวปั่นต่อ ตอน 3.00 ตรง  ระหว่างนี้ก็มีนักปั่นทยอนเข้ามาเรื่อยๆ  คนต้มข้าวต้มนี่ต้องต้มกันหลายหม้อเลย  แต่ละคนเข้ามานี่เป็นเสือโหยกันทั้งนั้น

พอออกปั่น ถึงรู้ว่า เซนเซอร์ ต่างๆหลุดหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น หัวใจ รอบขา ความเร็ว 
แต่ยังโชคดีที่ GPS ไม่ได้หลุดไปด้วย ตอนนี้ในกราฟจะเหลือแค่เส้นเดียวแล้วนะครับ ไม่ต้องแปลกใจ
ไม่น่าเชื่อว่าการนอนเพียงแค่ ชั่งโมงครึ่งจะทำให้มีแรงกลับมาได้เกือบเหมือนปรกติ ยกเว้นเรื่อปวกตรูดนี่  ทำไมมัปวดขึ้นแฮะ 
ปั่นไปเจอกลุ่มนักปั่นกลุ่มเล็กๆ มากัน 3 คัน แต่การประสานงานยอดเยี่ยมมาก  พลัดกันบังลมทุก 2 นาที ความเร็วกำลังดี ด้วยจิตวิญญาณแห่งปลิงแล้ว มีรึจะปล่อยให้เหยื่อหลุดล้อไปได้ง่ายๆ ทำการดูดจนมาพักที่ 7/11 โดยช่วยเหลือแค่ส่งกำลังใจให้เพียงอย่างเดียว แฮ่ๆๆ ขอบคุณมากๆครับ
แต่แรงมันกลับมาได้แค่ 2 ชั่งโมงเท่านั้นแหละ  อย่างเพิ่งดีใจไปปลิงเอ๋ย  

กม. 345.6  Checkpoint6: สายตรวจจักรยานอยุธยา 17:17-05:44 วางแผนว่าจะมาถึงตอน 03.00  แต่มาถึงจริงตอน 04.50
 ช้าเพราะนอนไปชั่วโมงครึ่งนั้นแหละ   แต่ถ้าไม่นอน  ก็คงไปหลับอยู่ข้างทางอยู่ดี  แวะปั้มตรา เติมน้ำ  แล้วปั่นเดี่ยวต๊อกแต๊กออกมาเลย อีกแค่ 60 โลก็ถึงแล้ว พอบอกตัวเองอย่างงั้นก็มีกำลังใจในการปั่นหน่อย
ปั่นมาในเส้นทางที่คุ้นเคยแล้ว สมัยก่อนปั่นมาเส้นนี้บ่อยอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพราะมากับทริปลุงโท ปั่นกลับก็คิดถึงความหลังจนเริ่มง่วงขึ้นมาอีกแล้ว เลยกะว่าจะแวะทานกาแฟที่ ที่ทำการกาแฟ แต่พอปั่นไปถึงร้านยังไม่เปิด เห็นพระอาทตย์ขึ้นแล้วก็จริง  แต่ตอนนั้นยังเป็นเวลา 5.45 น. อยู่เลย 
วิธีแก้ง่วงเมื่อไม่มีกาแฟทำอย่างไร ง่ายๆเลยก็แวะหลับสิ ว่าแล้วก็แวะศาลา นอนซักงีบ  ตั้งเวลาไว้ 15 นาที 

รูปนี้ถ่ายตอนก่อนจะแวะงีบตรงศาลา บัวสวยเชียว เวลา 5.45 พระอาทิตย์หน้าร้อนออกมาแว้ว
 ตื่นมาปั่นต่อ พระอาทิตย์เริ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ใส่เสื้อแขนสั้นด้วย ทำไงดีๆ แวะกินข้าวมันไก่ดีกว่า (เกี่ยวกันมั้ย) ที่กม390 

ระหว่างทางก็จะเจอกับนักปั่นที่ใช้เส้นทางนี้ในการออกกำลังกายซ้อมปั่น สวนทางมา และเป็นธรรมเนียมที่พอสวนกัน จะต้องโบกมือทักทายกัน แต่ผมในตอนนี้ ไม่ไหวแล้วง่วงแมกก คอตกก้มหน้าก้มตาปั่นมีแค่แรงโฟกัสแค่เส้นทางอย่างเดียว เลยไม่ได้โบกมือทักทายใครเลย ถ้าวันนั้นใครโบกมือทักทายผู้ชายผมยาวๆแล้วไม่ทักตอบนี้ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ 

แล้วปั่นต่อมาหนักใจตรงเส้น local road นี่แหละ มือระบม ก้นระบม มาเจอถนนระบมอีก พูดแล้วง่วงเลย คลานมาเรื่อยๆดูจากเส้นความเร็วก็น่าจะทราบได้ว่าไม่เหลือแรงที่จะปั่นต่ออีกแล้ว ในใจตอนนั้นถอดในจากทริป 600 โลแล้วนะครับ คิดว่าคงไม่ไหว  


แต่ในที่สุด   ในที่สุด  น้ำตาจะใหล เราก็มาถึงจุดหมายซะที  โอ้วพระกล้วยยย

ปั่นตอนหมดแรง  จะได้กราฟทรงแปลกๆแบบนี้

มาถึงซะที่ ที่จุดประทับตรา ตอนนั้นบอกว่า เพิ่งมาถึงได้ร้อยกว่าคนเอง ถอนตัวไปเยอะ  คงจะเพราะพิษแดดนั้นแหละ

ประทับตราเสร็จเค้าก็ยึดไป เพราะสั่งซ้อเหรียญ  แต่ขอถ่ายไว้เป็นที่ระทึกหน่อย

ข้อมูลหัวใจ กับรอบขาหายไปแระ 
รถคู่ใจ  ซื้อคันแรก ก็ยังใช้มาจนถึงทุกวันนี้ 




สรุปทริปนี้ หลุดจากที่วางแผนไว้  ชั่วโมงครึ่ง ตอนแรกกะว่าจะจบให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมงแบบไม่นอน แต่ทำไม่ได้ เข้าเส้นจริงตอน 8.40

สิ่งที่ต้องปรับแก้หลังจากจบทริบนี้คือห้ามปั่นเร็ว ให้ปั่นไปตามที่เราถนัด อันนี้สำคัญ คิดว่าถ้าช่วงกลางวันไม่ปั่นจนหัวใจขึ้นไปถึง 170 ยาวๆ คงไม่โทรมขนาดนี้  แต่ปั่นช้าก็มีข้อเสียนะ  ปวดก้นมาก  จนตอนนี้ยังเป็นแผลอยู่เลย ปวดมือ อันนี้น่าจะมาจากรถ  แต่รู้แล้ว ขนมปังเอามารองแฮนด์ได้ 555  ไม่ต้องเปลี่ยนรถใหม่ (แต่ถ้าเปลี่ยนรถใหม่มันจะเป็นยังไงว้า.......พูดแล้วรู้สึกคันๆแฮะ)

ขอจบการรีวิวพร้อมการบ่นไว้เพียงเท่านี้ครับ  แค่นี้ก็พิมพ์ยาวที่สุดในชีวิตแล้ว 555  มีท่านใดอยากเสริม เชิญได้เติมที่เลยนะครับ จะได้เป็นข้อมูลให้กับหลายๆท่านที่ยังไม่เคยลองปั่น 400 โล ว่าขออ่อนซ้อมน้อยก็จบได้ แต่ต้องวางแผนให้เหมาะกับร่างกายของตัวเองนะ
รอบหน้า 600 โล ถ้าเจอผู้ชายผมยาวๆ เข้ามาทักทายกันได้นะครับ (ถ้าจะให้ดีก็บังลมให้ปลิงอ้วนๆตัวนี้ด้วยนะครับ อิอิ)


ทดสอบคร้าบ ทดสอบ

โพสต์แรกนี้ ขอเป็นการแนะนำตัวเล็กๆ พร้อมกับเป็นการทดสอบการเขียนบล็อกเป็นครังแรกในชีวิตนะครับ เนื่องจากว่ามีเพื่อนยุให้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางจักรยาน ที่ทางเจ้าของบล็อคเองได้ไปปั่นมา จะได้เป็นการรวบรวมเส้นทางที่น่าสนใจ  ธรรมชาติบ้าง ไม่ธรรมชาติบ้าง เผื่วว่านักปั่นท่านอื่น อาจได้ใช้เส้นทางของผมในการอ้างอิง  เผื่อ่าเบื่อๆเส้นทางเดิมๆ นึกอะไรไม่ออกสนามเขียว  นึกอะไรไม่ออกเขาใหญ่ (แต่ก็จะมี Review สนามเขียวกับเขาใหญ่ด้วยแหละ 555)

ยังไงก็จะพยายานำข้อมูลมาลงอย่างต่อเนื่องนะครับ  ถ้ายังไม่งงกับรูปแบบบล็อคจนถอดใจไปซะก่อนนะ เอิ้กกกก